ผ้ายันต์ พระคลัง พระคลังมหาสมบัติ เปิดซุ้มปราสาท คลังมหาสมบัติ เปิดขุมทรัพย์ สีแดง ปี64

ผ้ายันต์ พระคลัง พระคลังมหาสมบัติ
- เปิดซุ้มปราสาท คลังมหาสมบัติ
- เปิดขุมทรัพย์
- สีแดง
- ขนาด 12 x 12 นิ้ว
- ออกปี 2564

- พระคลัง มหาสมบัติเปิดซุ้มประสาท คลังมหาสมบัติ เปิดขุมทรัพย์
  บนประสาท มีแก้วแหวนเงินทอง เพชรนิลจินดา หีบสมบัติ 
  ใต้ฐานชื่อพระคลัง มีพระคาถาพระคลัง และ หนุนดวงชะตา 

- บูชาติดไว้ที่บ้าน สำนักงาน บริษัท ร้านค้า
- เปิดขุมทรัพย์ เปิดโชคลาภ
- เรียกทรัพย์เงินทองไหลมา
- ค้าขายคล่อง
- มีกินมีใช้ เหลือเก็บทวีเพิ่มพูน

- พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 1 พฤษภาคม 2564
- พิธีฤกษ์มหามงคล เสาร์ 5        
- ฤกษ์พรหมประสิทธิ 3 ดาว       

- พุทธาภิเษกโดย หลวงปู่ประทวน
- วัดปากคลองมะขามเฒ่า
- ทายาทสายตรง หลวงปู่สำราญ และ หลวงปู่ศุข
- วัดปากคลองมะขามเฒ่า 
- ณ.วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท   

** บนผ้ายันต์พระคลัง รวบรวมยันต์อันศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆ
และพระคาถา มากถึง 26 ชนิด

 รายละเอียด ยันต์และพระคาถา ดังนี้

** กรอบผ้ายันต์ ล้อมรอบด้วยพระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ 3 พระคาถาได้แก่
  1. คาถาบูชาพระคลัง 2. คาถาโภคทรัพย์  3. คาถาพระเจ้า5พระองค์

 **ผ้ายันต์ ลง 2 ยันต์ ได้แก่    
 1.ยันต์บารมี 30 ทัศ , 2.ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า

** ยันต์ข้างฉัตร ลง 2 ยันต์ ได้แก่
  1.ยันต์พระสีวลี    2.ยันต์พระไตรปีฏก

*** ฉัตร ซ้าย-ขวา ลงยันต์ไว้ 6 ยันต์ ได้แก่  
1.ยันต์หัวใจพระไตรปิฏก       2.ยันต์หัวใจพระพุทธเจ้า
3.ยันต์พระพุทธเจ้า5พระองค์  4.ยันต์หัวใจพระสีวลี  
5.หัวใจพระอภิธรรม              6.ยันต์หัวใจเศรษฐี

** ยันต์ บนประสาทคลังมหาสมบัติ มีทั้งหมด  9 ยันต์ ได้แก่

1. ยันต์ครูพระเจ้า5พระองค์   2. ยันต์พระสีวลี 3. ยันต์พระพุทธเจ้า
4. นะพุทธเศรษฐี  5. นะมหาฤาชามหานิยม     6. เฑาะว์จินดามณี
7.นะพุทโธ   8. นะมหาเศรษฐี   9. นะเมตตา   

*** คาถาลงไว้บนเสา มี 4 พระคาคา ได้แก่
1. คาถามหาโภคทรัพย์  2. คาถาในฐาน
3. คาถามหาลาภ           4.คาถาโภคทรัพย์   

การบูชาพระคลัง
มีปัญหาเศรษฐิกิจไม่ดี การเงินไม่คล่องมือ
ค้าขายยอดตก ต้องบูชาพระคลัง

- เปิดขุมทรัพย์ด้านการเงิน
- เสริมดวงการเงิน มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ
- จะประสบความสำเร็จด้านการเงิน
  และทรัพย์สินมีค่ามหาศาล   
- รักษาทรัพย์พิทักษ์ให้อยู่ครบ และเพิ่มพูนทรัพย์
  ร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไป
- เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

---------------------------------------------------------------

#ประวัติพระคลัง
ประวัติพระคลัง
เครดิต : จันจิรา เทวฤทธิ์

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ 
ให้สร้างเทวรูปขึ้นประดิษฐานไว้ในอาคารที่ตั้งของพระคลังมหาสมบัติ
หรือที่เรียกว่า “พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ” 

โดยมีลักษณะเป็นเทวดาหล่อยืน ทรงเครื่องกษัตริยาธิราช 
สวมมงกุฎยอดชัย (หรือพระมหามงกุฎ)
พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ อันเป็นลักษณะของผู้ปกป้องคุ้มครอง
ส่วนพระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว    www.nara6.com
อันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญงอกงามและการบูชา 
ประดิษฐานอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้วแบบเก๋งจีนทำด้วยไม้จันทน์ทาชาดสีแดง 
มีประตูเป็นบานเฟี้ยมถอดได้ แกะสลักลวดลายแบบจีน ลงรักปิดทอง

สันนิษฐานกันว่าการสร้างพระคลัง มีนัยยะคล้ายกับการสร้างพระสยามเทวาธิราช 
ทั้งในด้านรูปลักษณะในท่าที่ทรงยืน ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องทรงแบบกษัตริย์ 
สวมมงกุฎยอดชัย ซึ่งหากจะเปรียบกับตัวโขนในมหากาพย์รามายณะหรือรามเกียรติ์แล้ว
ตัวพระซึ่งเป็นเชื้อสายกษัตริย์ คือ ‘พระราม’ หรือแม้แต่ ‘พระลักษณ์’ ก็สวม ‘มงกุฎยอดชัย’
ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระมหามงกุฎเช่นกัน 

นอกจากนี้ ยังเปรียบเสมือนเทพยดาศักดิ์สิทธิ์ที่คอยอภิบาลรักษา
โดยองค์พระสยามเทวาธิราชเป็นดั่งเทพที่คอยปกป้องบ้านเมือง ส่วน “พระคลัง”
ดุจดังเทพผู้พิทักษ์รักษาทรัพย์สินมีค่าในพระคลังมหาสมบัติ

สำหรับนัยยะของดอกบัวที่อยู่ในพระหัตถ์ซ้ายของ “พระคลัง”นั้น กล่าวกันว่า ‘ดอกบัว’ 
เป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ความเชื่อทางศาสนาพุทธ และเทพเจ้าของฮินดู
ซึ่งมีการนำมาใช้ในพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพราะถือเป็นสิริมงคล นอกจากนี้
‘ดอกบัว’ ยังเป็นต้นเค้าของพุทธศิลป์ไทย เห็นได้จากการนำรูปทรงดอกบัว
มาใช้เป็นองค์ประกอบเชิงศิลป์ซึ่งนิยมทำเป็นรูปรองรับพระพุทธรูป พระสถูปเจดีย์
รูปบัวหัวเสาในอาคารสถาปัตยกรรมไทย เทวรูป หรือรูปเคารพที่ทรงถือดอกบัว 

อาทิ เทวรูปพระแม่ลักษมี ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ 
รวมทั้งการนำรูปดอกบัวไปประทับบนเงินตรา เช่น รูปกระต่ายบนดอกบัวในเหรียญ
เงินทวารวดี

รูปดอกบัวบนเงินพดด้วงสมัยอยุธยา และรูปบัวอุณาโลมบนเงินพดด้วงสมัยรัชกาลที่ ๑ 
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รวมถึงรูปแบบของเครื่องอิสริยยศหมวดเครื่องอุปโภค 
เช่น พานพระศรี หรือพานหมาก ตลอดจนรูปองค์ประกอบบนดวงตรา
และดาราของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย ฯลฯ

ความเชื่อเกี่ยวกับ “พระคลัง” 
ว่าเปรียบดั่งเทพผู้พิทักษ์รักษาทรัพย์สินมีค่าในพระคลังมหาสมบัติ 
เป็นความเชื่อถือที่มีมาช้านาน เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา

และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่รับราชการ
ในพระคลังมหาสมบัตินับจากรุ่นสู่รุ่นสืบต่อกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน 

ดังจะเห็นได้จาก การที่ชาวกรมธนารักษ์ยังคงสืบทอดประเพณี

“ถวายเครื่องสังเวย” (แปลว่า ให้อาหาร ให้เครื่องกิน ให้เครื่อง เซ่นไหว้) 
เทวรูปพระคลัง หรือที่ชาวกรมธนารักษ์เรียกกันว่า “พิธีไหว้เจ้าพ่อคลัง”

ขึ้นทุกปีอย่างสม่ำเสมอ มิได้ขาด

เพื่อขอให้ความเป็นสิริมงคลเกิดขึ้นแก่ผู้สักการบูชา
และเป็นสิ่งที่ทุกคนได้พร้อมใจกันกระทำด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธาที่มีต่อ

“เทวรูปพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ” อย่างไม่เสื่อมคลาย

เชื่อกันว่า กราบไหว้ขอพรแล้ว จะพบความสำเร็จทางด้านเงินทอง
จะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล มีเงินมีทองใช้ไม่ขาด ทรัพย์สมบัติอยู่ครบ
อีกทั้งพอกพูน ร่ำรวย มั่งคั่งตลอดไป

คาถาบูชาพระคลังบทสั้น 
ตั้งนะโม 3 จบ
“มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะ สัมภะวะ สุนทรี ปาณีนัง สะระนังวาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง”