พระคลัง ขนาดตั้งโต๊ะบูชา 9 นิ้ว เนื้อมหาชนวน ชุบทองโบราณ (สีทองดอกบวบ) รุ่นโคตรเศรษฐี 4 ปี 64

พระคลัง ขนาดตั้งโต๊ะบูชา 9 นิ้ว เนื้อมหาชนวน ชุบทองโบราณ
รุ่นโคตรเศรษฐี 4 ปี 64

- เนื้อมหาชนวน ชุบทองโบราณ (สีทองดอกบวบ)
  เกรดจิวเวลรี่ งามปราณีตสวยงาม น่าบูชายิ่งนัก

- สีทองเป็นสีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูนทรัพย์ และความเจริญรุ่งเรือง
- พระคลัง รุ่นโคตรเศรษฐี 5
- ออกปี 2564
- ขนาดตั้งโต๊ะบูชา                          www.nara6.com
- ความสูง 9 นิ้ว (วัดจากฐานถึงชฏา)
- ฐานกว้าง 2.5 นิ้ว x 2.5 นิ้ว
- งานหล่อลอยองค์
- หล่อแบบ 3 มิติ สวยงดงาม น่าบูชายิ่งนัก
- ชนวนมวลสารมากมายสุดเข้มขลัง      
- มีหมายเลขกำกับ เลข 14

- พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 1 พฤษภาคม 2564
- พิธีฤกษ์มหามงคล เสาร์ 5         
- ฤกษ์พรหมประสิทธิ 3 ดาว        

- พุทธาภิเษกโดย หลวงปู่ประทวน วัดปากคลองมะขามเฒ่า
  ทายาทสายตรง หลวงปู่สำราญ และ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า 
- ณ.วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท    

- ตั้งบูชาไว้ที่บ้าน สำนักงาน บริษัท ร้านค้า เปิดขุมทรัพย์ เปิดโชคลาภ
  เรียกทรัพย์เงินทองไหลมา ค้าขายคล่อง มีกินมีใช้ เหลือเก็บทวีเพิ่มพูน

** ร้านนาราฯ มีออกบัตรรับประกันพระแท้ 100% 

ชนวนมวลสาร ที่ใช้หล่อพระคลัง ลอยองค์ รุ่นโคตรเศรษฐี 5 ปี 64 

1.    ปีกตัดเศษเนื้อทองคำ ในการสร้างเหรียญพระเนื้อทองคำต่างๆ
2.    แท่นมหาชนวนที่ใส่ยันต์มหาสะท้อน ชนวนเหล็กไหล ชนวนตัดปีกต่างๆ 
3.    ปีกตัดและแท่นชนวนพระแร่โคตรเศรษฐี สำนักส่งเสริมปฏิบัติธรรมแม่ชีประทุม
       นครราชสีมา แท่นชนวนแร่เทพรักษาสมัยย่าชีประทุม
       ได้เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร และพิธีกรรมมากมาย ตลอด 2 ปี
4.    หูเหรียญพระคลังมหาสมบัติ ตะกรุดยันต์ต่างๆ เงินพดด้วงสมัยโบราณ
5.    นำหูเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื้อปลอดกระสุนลูกปืน
       ผ่านพิธีมังคลาภิเษก ที่ท้องพระโรงพระราชวังเดิม กทม.
       โดยพระครูอุดมวัฒนมงคล เจ้าอาวาสวัดถ้ำวัฒนมงคล
       พร้อมกันเหรียญ ชิตังเม ในวันที่ 19 ก.ย.  2554 และชนวนสายแม่ชีบุญเรือน
6.    แร่ทองคำดำ จากครูบาฯ
7.    มวลสารผงมหาจักรพรรดิ / ผงตะไบมีดฟ้าฟื้นทั้งหมด

การบูชาพระคลัง พระคลังมหาสมบัติ หรือท่านปู่ท้าวพระคลัง

พระคลัง ท่านเป็นเทพระดับอินทกะบริวาร ของท่านปู่ท้าวเวสสุวัณปางธนบดีมหาเศรษฐี
พระคลังมือขวาถือพระขรรค์ มือซ้ายถือดอกบัว โภคทรัพย์   www.nara6.com
ยืนประดับบนดอกบัวแห่งทรัพย์สินเงินทอง

การบูชาพระคลัง
มีปัญหาเศรษฐิกิจไม่ดี การเงินไม่คล่องมือ ค้าขายยอดตก ต้องบูชาพระคลัง

- เปิดขุมทรัพย์ด้านการเงิน
- เสริมดวงการเงิน มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ
- จะประสบความสำเร็จด้านการเงิน
  และทรัพย์สินมีค่ามหาศาล   www.nara6.com
- รักษาทรัพย์พิทักษ์ให้อยู่ครบ และเพิ่มพูนทรัพย์
  ร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไป
- เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

---------------------------------------------------------------

#ประวัติพระคลัง
ประวัติพระคลัง
เครดิต : จันจิรา เทวฤทธิ์

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ 
ให้สร้างเทวรูปขึ้นประดิษฐานไว้ในอาคารที่ตั้งของพระคลังมหาสมบัติ
หรือที่เรียกว่า “พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ” 

โดยมีลักษณะเป็นเทวดาหล่อยืน ทรงเครื่องกษัตริยาธิราช 
สวมมงกุฎยอดชัย (หรือพระมหามงกุฎ) พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ 
อันเป็นลักษณะของผู้ปกป้องคุ้มครอง ส่วนพระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว 
อันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญงอกงามและการบูชา 
ประดิษฐานอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้วแบบเก๋งจีนทำด้วยไม้จันทน์ทาชาดสีแดง 
มีประตูเป็นบานเฟี้ยมถอดได้ แกะสลักลวดลายแบบจีน ลงรักปิดทอง

สันนิษฐานกันว่าการสร้างพระคลัง มีนัยยะคล้ายกับการสร้างพระสยามเทวาธิราช 
ทั้งในด้านรูปลักษณะในท่าที่ทรงยืน ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องทรงแบบกษัตริย์ 
สวมมงกุฎยอดชัย ซึ่งหากจะเปรียบกับตัวโขนในมหากาพย์รามายณะหรือรามเกียรติ์แล้ว
ตัวพระซึ่งเป็นเชื้อสายกษัตริย์ คือ ‘พระราม’ หรือแม้แต่ ‘พระลักษณ์’ ก็สวม ‘มงกุฎยอดชัย’
ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระมหามงกุฎเช่นกัน 

นอกจากนี้ ยังเปรียบเสมือนเทพยดาศักดิ์สิทธิ์ที่คอยอภิบาลรักษา
โดยองค์พระสยามเทวาธิราชเป็นดั่งเทพที่คอยปกป้องบ้านเมือง ส่วน “พระคลัง”
ดุจดังเทพผู้พิทักษ์รักษาทรัพย์สินมีค่าในพระคลังมหาสมบัติ

สำหรับนัยยะของดอกบัวที่อยู่ในพระหัตถ์ซ้ายของ “พระคลัง”นั้น กล่าวกันว่า ‘ดอกบัว’ 
เป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ความเชื่อทางศาสนาพุทธ และเทพเจ้าของฮินดู
ซึ่งมีการนำมาใช้ในพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพราะถือเป็นสิริมงคล นอกจากนี้
‘ดอกบัว’ ยังเป็นต้นเค้าของพุทธศิลป์ไทย เห็นได้จากการนำรูปทรงดอกบัว
มาใช้เป็นองค์ประกอบเชิงศิลป์ซึ่งนิยมทำเป็นรูปรองรับพระพุทธรูป พระสถูปเจดีย์
รูปบัวหัวเสาในอาคารสถาปัตยกรรมไทย เทวรูป หรือรูปเคารพที่ทรงถือดอกบัว 

อาทิ เทวรูปพระแม่ลักษมี ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ 
รวมทั้งการนำรูปดอกบัวไปประทับบนเงินตรา เช่น รูปกระต่ายบนดอกบัวในเหรียญ
เงินทวารวดี

รูปดอกบัวบนเงินพดด้วงสมัยอยุธยา และรูปบัวอุณาโลมบนเงินพดด้วงสมัยรัชกาลที่ ๑ 
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รวมถึงรูปแบบของเครื่องอิสริยยศหมวดเครื่องอุปโภค 
เช่น พานพระศรี หรือพานหมาก ตลอดจนรูปองค์ประกอบบนดวงตรา
และดาราของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย ฯลฯ

ความเชื่อเกี่ยวกับ “พระคลัง” ว่าเปรียบดั่งเทพผู้พิทักษ์รักษาทรัพย์สินมีค่าในพระคลังมหาสมบัติ 
เป็นความเชื่อถือที่มีมาช้านาน เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา

และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่รับราชการ
ในพระคลังมหาสมบัตินับจากรุ่นสู่รุ่นสืบต่อกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน 

ดังจะเห็นได้จาก การที่ชาวกรมธนารักษ์ยังคงสืบทอดประเพณี

“ถวายเครื่องสังเวย” (แปลว่า ให้อาหาร ให้เครื่องกิน ให้เครื่อง เซ่นไหว้) 
เทวรูปพระคลัง หรือที่ชาวกรมธนารักษ์เรียกกันว่า “พิธีไหว้เจ้าพ่อคลัง”

ขึ้นทุกปีอย่างสม่ำเสมอ มิได้ขาด

เพื่อขอให้ความเป็นสิริมงคลเกิดขึ้นแก่ผู้สักการบูชา และเป็นสิ่งที่ทุกคนได้พร้อมใจกันกระทำด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธาที่มีต่อ

“เทวรูปพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ” อย่างไม่เสื่อมคลาย

เชื่อกันว่า กราบไหว้ขอพรแล้ว จะพบความสำเร็จทางด้านเงินทอง
จะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล มีเงินมีทองใช้ไม่ขาด ทรัพย์สมบัติอยู่ครบ
อีกทั้งพอกพูน ร่ำรวย มั่งคั่งตลอดไป

คาถาบูชาพระคลังบทสั้น 
ตั้งนะโม 3 จบ
“มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะ สัมภะวะ สุนทรี ปาณีนัง สะระนังวาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง”
Credit รูป Khonsiam